รพ.บางเลน แถลงยอมรับผิด พร้อมเผยผลสแกนเด็กทารกพบเลือดคั่งในสมอง หลังถูกลักพาตัวออกจากโรงพยาบาล พร้อมประกาศจะรับดูแลอาการเด็กตลอดไป ด้านพ่อแม่เด็กห่วงพัฒนาการทางสมองในระยะยาว

ความคืบหน้า นพ.กมลลักษณ์ จินดาไตรรัตน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบางเลน อ.บางเลน จ.นครปฐม พร้อมพ่อแม่และญาติของ”น้องเดช” ร่วมแถลงในประเด็นที่เกี่ยวข้องหลังเกิดเหตุ ชายวัย 43 ปี เข้ามาลักพาตัว “น้องเดช” ทารกอายุ 2 วันออกจากห้องหลังคลอดของโรงพยาบาล

นพ.กมลลักษณ์ กล่าวว่า ทางโรงพยาบาลได้ขอโทษครอบครัว “น้องเดช” แล้ว กับเกิดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในโรงพยาบาลเมื่อวันที่ 13 ส.ค.2566 หลังเกิดเหตุ ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง และวันนี้ได้สรุปรายงานส่งต่อนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครปฐมแล้ว ซึ่งทาง สสจ.นครปฐม จะพิจารณารวมถึงตั้งกรรมการระดับจังหวัดสอบสวนอีกครั้ง
ส่วนการเยียวยาทางโรงพยาบาลได้แจ้งครอบครัวน้องเดชว่า จะรับผิดชอบดูแลค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากกรณีนี้ และติดตามอาการกันใกล้ชิดต่อเนื่องไปตลอดจนกว่าน้องเดชจะหายดี รวมถึงระหว่างนี้ทางโรงพยาบาลได้จัดรถรับ-ส่ง ครอบครัวจากบ้านพักที่บางเลนมายังโรงพยาบาลนครปฐมทุกวันเพื่อติดตามอาการเด็ก

ทั้งนี้ ห้องเกิดเหตุที่เป็น “ห้องหลังคลอด” แต่เดิมมีมาตรการความปลอดภัยอยู่แล้ว โดยไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกเข้าพื้นที่หลังเวลา 20.00 น. และมีเจ้าหน้าที่เข้าเวรหลังเวลา 24.00 น.จำนวน 2 คน บริเวณห้องคลอดและห้องหลังคลอด โดยระบบห้องคลอดเป็นประตูล็อกอัตโนมัติ

แต่สถานการณ์วันเกิดเหตุ ในเวลา 03.30 น. ของวันที่ 13 ส.ค.66 ซึ่งตรงกับช่วงที่มีเคสเด็กคลอดใหม่ ทำให้เจ้าหน้าที่เดินไป-มา ระหว่างห้องคลอด และ ห้องหลังคลอด ซึ่งอยู่ติดกัน และทำให้ผู้ก่อเหตุสบโอกาสเข้าไปลักพาตัวน้องเดช ออกมาจากเตียงพักฟื้นระหว่างที่แม่และพ่อเด็กอยู่ในห้องนั้นด้วย

หลังจากนี้ ทางโรงพยาบาลจะกำชับให้เจ้าหน้าที่เข้มงวดมากขึ้น รวมถึงปรับปรุงระบบล็อกห้องคลอดและห้องหลังคลอดเป็นระบบอัตโนมัติ ที่ต้องใช้คีย์การ์ดในการเข้า-ออก ห้อง เพื่อลดความเสี่ยงบุคคลภายนอกเข้ามาขโมยเด็กอีก

ด้านนางยุพารัตน์ เทศนาง แม่ของทารกที่ถูกลักพาตัว ระบุว่า อาการล่าสุดวันนี้ ผลสแกนสมอง ของ รพ.นครปฐม พบว่า อาการของลูก แพทย์ยังต้องดูแลใกล้ชิด เนื่องจากพบว่า มีเลือดคั่งในสมองบริเวณด้านท้ายศีรษะ

ทางทีมแพทย์ได้นำลูกเข้าเครื่องอัลตร้าซาวด์สมองแล้วจึงทราบว่า มีเลือดออกในสมองซึ่งมีความเป็นห่วง เนื่องจากมีเลือดออกไหลเยอะ และแพทย์ได้แจ้งว่า เลือดไหลออกทั่วบริเวณด้านหลังแต่ว่ายังไม่ถึงขั้นต้องผ่าตัด

ทั้งนี้ ยังต้องเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิดรวมถึงขณะนี้ยังต้องให้ยาที่เกี่ยวกับอาการชักด้วย และในระยะยาวยังต้องติดตามไปถึงพัฒนาการการเติบโตของลูก โดยแพทย์นัดอีก 2 สัปดาห์เพื่อนำลูกเข้าสแกนสมองอีกครั้ง

เรื่องแบบนี้ไม่มีใครทำใจได้ ซึ่งเกี่ยวกับสมองลูกด้วย ตอนแรกเห็นแค่ว่าลูกหัวโน ปูด ไม่ได้คิดว่าจะมีอาการมากขนาดนี้ ซึ่งเท่าที่คุยกับหมอระบุว่า ข้อสันนิษฐานเกิดจากการกระแทกในช่วงที่ผู้ก่อเหตุนำลูกใส่ถุง แล้วหิ้วแขวนที่แฮนด์รถจักรยานยนต์ไปเรื่อย ๆ และจากการสอบถามสามี บอกว่า ระยะเส้นทางมอเตอร์ไซค์ จากโรงพยาบาลไปบ้านของผู้ก่อเหตุมีระยะประมาณ 20 กม. ตอนนี้สงสารลูกจับหัวใจ ซึ่งก่อนหน้านี้ในช่วงของการคลอด ลูกของเรามีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงดี เมื่อคลอดลูกออกมามีน้ำหนักตัวกว่า 3,600 กรัม

ขณะเดียวกันภายในวันนี้ ทางทีมโรงพยาบาลได้พบกับครอบครัวเพื่อหารือถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนเรื่องประเด็นค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นหลังจากเกิดเหตุจนถึงขณะนี้ และการดูแลทางโรงพยาบาลฯ ระบุว่า จะช่วยรับผิดชอบ ขณะนี้สิ่งที่เป็นห่วงคืออาการของลูกชายเท่านั้น ถ้าไม่มีเหตุการณ์เกิดขึ้น ตามกำหนดเดิมแล้ว ตัวเองและลูกชาย จะต้องเดินทางออกจาก โรงพยาบาลบางเลน เมื่อเช้าวันนี้ เพื่อกลับไปใช้ชีวิตตามปกติ แต่หลังจากนี้ ยังคงต้องติดตามอาการลูกเป็นระยะในทุกวัน